เตรียมตัวก่อนเรียกช่างแอร์ในตำนาน
Written by: Doowoper
31 October 2019
Views: 476
เครื่องปรับอากาศถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้ายอดนิยมที่หลายครัวเรือนมีติดบ้าน นอกจากทุกๆ 6 เดือน ต้องเรียกช่างมาล้างทำความสะอาดชุดใหญ่แล้ว หากคุณเรียนรู้อาการผิดปกติต่างๆ เพื่อป้องกันการสูญเงินโดยใช่เหตุไว้ด้วยก็ยิ่งดี สำหรับอาการที่สื่อว่าแอร์ผิดปกติ ต้องสังเกตอย่างไร และมีวิธีบรรเทาอาการเบื้องต้นก่อนถึงมือช่าง (คิวทอง) อย่างไร เรามีมาบอกให้ทราบ รับรองไม่ยากเกิน ถ้าทำเองไม่ได้ อย่างน้อยบอกอาการให้ช่างทราบ เพื่อให้ง่ายต่อการซ่อมแซมก็ยังดี
ลมแอร์ไม่ค่อยออก
Photo by aerogonde2 on Shutterstock
Photo by aerogonde2 on Shutterstock
หรือเย็นไม่ฉ่ำ คืออีกหนึ่งสาเหตุของแอร์สกปรก วิธีแก้ไขเบื้องต้นต้องถอดฟิลเตอร์หรือแผ่นกรองภายในตัวแอร์ไปล้างฝุ่นทำความสะอาดออกให้หมด (อยู่ใต้หน้ากากแอร์) ก็จะช่วยได้ประมาณหนึ่ง แต่หากสงสัยว่าเพิ่งล้างแอร์ไปยังไม่ถึง 6 เดือนเลย ทำไมสกปรกเร็วจัง? กรณีนี้ก็ต้องมาวิเคราะห์ว่าบ้านของคุณนั้นตั้งอยู่ติดถนน มียานพาหนะสัญจรผ่านประจำหรือไม่ ถ้าเข้าข่าย ระยะเวลาการล้างแอร์ก็อาจต้องขยับเป็นทุก 3 หรือ 4 เดือน ก็จะทำให้แอร์สะอาด และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
น้ำหยด
Photo from Boonthavorn
อาการนี้หนักขึ้นมาอีกหน่อย ส่วนใหญ่เกินจากการอุดตัน โดยสาเหตุหนึ่งมาจากการไม่ได้เรียกช่างมาทำความสะอาดแอร์นานนับปี ตัวเครื่องก็อาจสกปรกมาก หรืออีกสาเหตุอาจเกิดจากท่อน้ำทิ้งตัน ซึ่งเป็นท่อน้ำที่ต่อออกมาด้านนอกบ้าน ใกล้คอมเพรสเซอร์แอร์ ที่อาจมีสิ่งสกปรกหรือสัตว์เข้าไปอุดอยู่ภายในท่อก็เป็นได้ วิธีแก้เบื้องต้นคือใช้เครื่องเป่าลม (Blower) ดูดสิ่งสกปรกบริเวณปลายท่อน้ำทิ้งออกมาก็จะสามารถช่วยได้
Photo by Phichai on Shutterstock
โดยเครื่องเป่าลมที่ว่านี้ เป็นเครื่องเป่าลม ที่มีทั้งด้านดูดและเป่าลมให้เลือกใช้ แต่ถ้ากรณีท่อน้ำทิ้งตามคอนโดฯ หรือบ้านที่ใช้วิธีการฝังลงดิน เราก็หมดสิทธิ์แก้ไข ต้องปล่อยให้ช่างมาจัดการ ฉะนั้นกรณีนี้ต้องไล่เป็นข้อๆ ว่าเกิดจากสาเหตุใด
มีกลิ่นเหมือนน้ำมัน
Photo by yoshi0511 on Shutterstock
สาเหตุนี้มักเกิดจากบริเวณแผงคอยล์เย็น อาจเกิดการผุหรือมีรูรั่วขนาดเล็ก อันเนื่องมาจากอายุการใช้งานที่ยาวนาน จึงทำให้ขณะเปิดเครื่องได้กลิ่นของน้ำยาหรือสารทำความเย็น (Refrigerant) ซึ่งบอกเลยว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก ถ้ากรณีนี้ แนะนำได้อย่างเดียวคืออย่าดื้อแพ่งใช้งานต่อ อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อคอมเพรสเซอร์ ควรเรียกช่างแอร์มาตรวจสอบ ซึ่งอาจสามารถเชื่อมอุดรอยรั่วได้หรืออาจต้องเปลี่ยนอะไหล่ใหม่
แอร์มีเสียงดัง
Photo by Africa Studio on Shutterstock
มีอยู่ 3 กรณีที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ คือหนึ่ง บูชรองแกนมอเตอร์มีเสียงดัง วิธีแก้คือช่างจะใช้จาระบีทาเคลือบ หรือสอง มอเตอร์พัดลมเสื่อมสภาพ ก็ต้องทำการเปลี่ยน เพราะถ้าปล่อยไว้อาจลามทำให้อะไหล่ชิ้นอื่นพาลเสียไปด้วย และกรณีสุดท้ายคือเป็นเสียงเกิดมาจากแผงครอบแอร์ ซึ่งสาเหตุนี้เกิดขึ้นบ่อย และผู้ใช้งานมักไม่ทันสังเกต โดยเมื่อใช้งานไปนานๆ สลักล็อกอาจเสื่อมสภาพหรือแตกหัก ทำให้ปิดไม่สนิท วิธีแก้ง่ายๆ ไม่ต้องเสียเงินเรียกช่างก็คือ หาเทปกาวมาแปะยึดให้แน่น ฉะนั้นถ้าแอร์มีเสียง อันดับแรกควรเช็กแผงครอบแอร์ด้วยตนเองก่อน
Tips ควรรู้เกี่ยวในการตั้งค่าแอร์พื้นฐาน
รีโมทแอร์ทั่วไปมีปุ่มให้คุณเลือกรูปแบบการทำงาน (Mode) หลากหลาย บางครั้งหากปรับโหมดผิดหรือไม่รู้หลักการใช้รีโมท อาจทำให้แอร์ไม่เย็นหรือทำงานหนักเกินไป โดยทั่วไปแล้ว มี 4 โหมดพื้นฐานในการใช้งาน ดังนี้
- Cool โหมดทำความเย็น ที่เรากำหนดอุณหภูมิความเย็นได้ตามต้องการ
- Auto โหมดตั้งอุณหภูมิและความแรงลมอัตโนมัติ โดยเซ็นเซอร์จะทำหน้าที่ควบคุมความเย็นและความแรงลมให้เหมาะสมตลอดเวลา
- Dry โหมดลดความชื้นในอากาศ เหมาะสำหรับใช้กรณีที่ห้องมีความชื้นสูง ควรใช้โหมดนี้ เพื่อลดความชื้นก่อนเปิดใช้งานโหมด Cool เนื่องจากความชื้นสูงทำให้แอร์ไม่เย็น
- Fan โหมดพัดลม เครื่องจะไม่มีการทำความเย็น อย่าสับสนกับปุ่มควบคุมความแรงของพัดลม (Fan Speed) แนะนำให้ปรับจากโหมด Cool หรือ Auto เป็นโหมดนี้ก่อนปิดแอร์สัก 5-10 นาที เพื่อให้ลมเป่าพัดแผงคอยล์เย็นให้มีอุณหภูมิเท่ากับห้อง จึงไม่เกิดการกลั่นตัวของหยดน้ำ อันเป้นสาเหตุหนึ่งของกลิ่นอับและการผุกร่อนของแผงคอยล์เย็น