GLORIOUS OUTDOOR LIGHTING

Products

Written by: Tanet Chantaket

24 June 2020

Views: 470

ความฝันของคนมีบ้าน นอกจากการมีบ้านที่สวยงาม และการตกแต่งภายในหรูหราร่วมสมัยแล้ว หลายคนอาจต้องการสวนภายนอกที่ดูสวยร่มรื่นสบายตา ไม่ว่าจะเป็นแค่พื้นที่เล็กๆ ข้างบ้าน หรือพื้นที่สวนกว้างรอบบ้าน แต่ทัศนียภาพอันสวยงามของสวนสวยต้องจางหายไปทุกครั้งที่ตะวันตกดิน อย่าปล่อยให้เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป ลองเติมแต่งไฟให้กับบ้านและสวนสวยของคุณ การติดตั้งไฟภายนอกและในสวน นอกจากสร้างความสวยงามอีกรูปแบบแล้ว ยังมอบความปลอดภัยให้กับพื้นที่นอกบ้านอีกด้วย



การจัดไฟภายนอกมีพื้นฐานไม่ต่างกับการตกแต่งทั่วไป การใส่อะไรเข้าไปเยอะย่อมดูรกตาไร้จุดเด่น การจัดไฟสำหรับภายนอกและในสวนก็เช่นกัน หากเราจัดไฟส่องสว่างมาที่ตัวบ้านทั้งหลัง ส่องต้นไม้ทุกต้น ส่องทุกพุ่มทุกกอ บ้านและสวนก็จะสว่างจ้าดูไร้มิติของแสงเงา และขาดจุดเด่นที่น่าสนใจ แถมยังเปลืองไฟโดยใช่เหตุ ดังนั้น สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการจัดไฟภายนอกคือ ต้องทราบว่าจะจัดไฟเพื่อส่องอะไรหรือส่องมุมไหน จากนั้นดูว่าการจัดไฟรูปแบบใดที่เหมาะสม และสุดท้ายคือการเลือกซื้ออุปกรณ์โคมไฟที่ตอบโจทย์รูปแบบการจัดไฟ เพราะความสำเร็จของการจัดไฟภายนอกนั้น คือเพื่อให้เห็นความสวยงามที่เกิดจากแสงไฟ ไม่ใช่การมองเห็นแหล่งกำเนิดแสงสว่าง

จัดไฟส่องอะไรดี

การเริ่มต้นว่าจะจัดไฟเพื่อส่องอะไรในสวน อาจเป็นเรื่องยากในการจะตัดสินใจ เรามีสามขั้นตอนง่ายๆ ที่จะช่วยในการตัดสินใจ

1. 
มองหาจุดเด่นของอาคารและในสวนของคุณ เช่น ต้นไม้ บ่อน้ำ ทางเดิน ผนังอาคาร หรือช่องเปิดของอาคารต่างๆ หากสิ่งนั้นคือจุดเด่นของสวนและบ้านของคุณ

2. มุมสวนที่ดูไม่มีความโดดเด่นยามกลางวัน อาจมีความโดดเด่นยามค่ำคืน หากมีการใช้ไฟส่องสว่างในพื้นที่นั้นๆ ไฟอาจเกิดแสงเงาที่น่าสนใจได้ เช่น เงาบนพื้นผิวผนังหิน หรือแสงที่ส่องกิ่งก้านต้นไม้

3. การจัดไฟเพื่อการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณทางเข้า แนวทางเดิน ขั้นบันไดหรือพื้นที่ต่างระดับ ไม่เพียงอาจสร้างจังหวะของดวงไฟที่น่าสนใจ แน่นอนว่ายิ่งมอบความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี



มาเข้าใจประเภทของโคมไฟภายนอก

การเลือกซื้อโคมไฟสำหรับสวนและพื้นที่ภายนอกนั้น ต้องเข้าใจหลักการทำงานของโคมไฟแต่ละชนิด ซึ่งหากเข้าใจหลักการแล้ว จะช่วยให้คุณเลือกโคมไฟที่ส่องแสงได้เหมาะสมกับทุกพื้นที่ มอบความสวยงามและตอบโจทย์การใช้งาน เพราะการใช้โคมไฟผิดประเภท นอกจากไม่ได้เอฟเฟกต์แสงสว่างตามที่ต้องการแล้ว อาจสร้างความรำคาญและเป็นอันตรายอีกด้วย เช่น แสงไฟที่ส่องสวนแยงตา ทำให้คุณมองไม่เห็นพื้นต่างระดับ หรือไฟส่องต้นไม้ที่มีวงแสงกว้างเกินไป อาจส่องเข้าไปรบกวนในห้องนอนได้  เรามาดูกันว่าโคมไฟสำหรับใช้ภายนอกอาคารและใช้ในสวนนั้น มีรูปแบบใดบ้าง

Spotlight



โคมไฟภายนอกที่พบเห็นบ่อยนั้น น่าจะเป็นโคมไฟสปอร์ตไลท์ โคมประเภทนี้ออกแบบคุมการส่องแสงออกเป็นวงแคบ โดยทั่วไปประมาณไม่เกิน 45 องศา เน้นการส่องแสงเฉพาะจุด สร้างความโดดเด่นให้จุดที่น่าสนใจ เช่น รายละเอียดที่โดดเด่นของตัวอาคาร หรือลำต้นของต้นไม้ แสงที่ส่องออกจากโคมมีองศาแคบ บางครั้งจึงถูกนำไปสร้างแพทเทิร์นแสงเงาบนผนังอาคาร นอกจากการใช้โคมไฟเพื่อควบคุมแสงแบบสปอร์ตไลท์แล้ว เรายังสามารถใช้หลอดไฟที่มีตัวสะท้อนและเลนส์ควบคุมแสงในตัว แต่หลอดอาจมีราคาสูงกว่าหลอดทั่วไป ซึ่งสามารถใช้กับโคมไฟภายนอกทั่วไปได้ อย่างไรก็ดีควรเช็กจากผู้ขายหรือผู้ผลิตให้แน่ใจว่าโคมไฟตัวนั้น ออกแบบมาสำหรับหลอดไฟแบบใด สนใจโคมไฟสปอร์ตไลท์ คลิกที่นี่

Floodlight



โคมไฟฟลัดไลท์ เป็นโคมอีกประเภทที่มักนำมาใช้ภายนอกอาคารและในสวน โคมไฟชนิดนี้ควบคุมองศาการส่องแสงมุมกว้างตั้งแต่ 45-120 องศา เหมาะกับการส่องแสงในบริเวณกว้าง ที่ต้องการแสงสว่างกระจายทั่วถึง และก็เช่นเดียวกับไฟสปอร์ตไลท์ที่มีหลอดไฟออกแบบเฉพาะ พร้อมตัวกระจายแสงและเลนส์ในตัว สามารถใช้กับโคมไฟทั่วไปได้ แต่ก็ควรตรวจสอบว่าโคมไฟออกแบบมาสำหรับหลอดไฟแบบใด สนใจโคมไฟฟลัดไลท์ คลิกที่นี่

Ground Recessed Light



โคมไฟฝังพื้น ติดตั้งฝั่งกับพื้นภายนอกหรือฝังกับพื้นดินในสวน ส่องแสงแบบ Uplight หรือส่องขึ้น เหมาะสำหรับใช้ส่องต้นไม้ พุ่มไม้ หรือตัวบ้าน ใช้สร้างเส้นนำสายตาในสวน รวมถึงระบุตำแหน่งแนวถนนหรือทางเดิน การติดตั้งเสมอกับพื้นจะสร้างแสงเงาน่าสนใจ ควรเลือกโคมไฟฝังพื้นที่ออกแบบมาเฉพาะ มีมาตรฐาน จากแบรนด์ผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ เพราะต้องสามารถกันน้ำและความชื้น รวมถึงทนทาน สามารถรองรับน้ำหนักรถยนต์ที่แล่นทับได้ สนใจโคมไฟฝังพื้น คลิกที่นี่

Step light



สำหรับพื้นที่บริเวณทางเดินริมผนัง พื้นที่ต่างระดับ หรือขั้นบันได นิยมติดตั้งโคมไฟประเภทนี้ ซึ่งมีทั้งชนิดติดผนัง โดยติดตั้งสูงจากพื้นตั้งแต่ 30-50 ซม. และชนิดติดตั้งบริเวณลูกตั้งขั้นบันได โคมไฟประเภทนี้ ออกแบบให้ส่องแสงออกไปตรงๆ หรือส่องลงด้านล่าง ช่วยส่องสว่างให้เห็นทางเดินชัดเจน โดยไม่มีแสงสว่างส่องย้อนขึ้นมาแยงตา หรือไม่รบกวนการจัดแสงเพื่อการตกแต่งของพื้นที่ข้างเคียง โคมชนิดนี้นอกจากมอบความปลอดภัยในการใช้งานแล้ว ยังนิยมใช้เป็นไฟตกแต่งเติมรายละเอียดให้กับอาคารยามค่ำคืนอีกด้วย สนใจไฟส่องติดผนัง คลิกที่นี่ โคมไฟบันได คลิกที่นี่

Bollard light



โคมไฟเสาแบบนี้ใช้ส่องแสงให้กับทางเดินหรือถนนทางเข้า ความสูงของโคมไฟเสามีตั้งแต่ 40-120 ซม. ตำแหน่งไฟที่สูงจากพื้นช่วยส่องสว่างได้กว้างกว่าโคมไฟฝังพื้น มีทั้งแบบที่แสงส่องออกด้านเดียว สองด้าน และรอบทิศทาง รองรับทุกรูปแบบการใช้งาน โดยส่วนใหญ่จะแนะนำให้ติดตั้งเสาสลับฟันปลาสองฝั่งบนทางเดินหรือถนนเข้าบ้าน หลีกเลี่ยงการสร้างแนวไฟที่เว้นระยะแบบจุดไข่ปลา ซึ่งอาจดูเหมือนไฟนำทางรันเวย์สนามบินหรือไฟขอบถนน เทคนิคนี้ยังเหมาะกับการโคมไฟฝังพื้นเช่นกัน สนใจโคมไฟเสา คลิกที่นี่ 

Post light

เสาไฟสนาม เหมาะสำหรับให้แสงสว่างแบบทั่วไปในพื้นที่กว้าง มีความสูงโดยประมาณตั้งแต่ 160-250 ซม. โคมไฟชนิดนี้มีให้เลือกทั้งแบบที่ส่องแสงกระจายรอบทิศทาง และแบบส่องแสงลงเฉพาะด้านล่าง ควรเลือกตัวโคมให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพราะบางครั้งแสงที่ส่องสว่างออกจากโคมอาจสร้างความรำคาญได้ เช่น แสงส่องเสยเข้าหน้าต่างห้องนอน เป็นต้น เสาไฟประเภทนี้ยังดูโดดเด่นช่วงกลางวัน เป็นเสมือนองค์ประกอบตกแต่งพื้นที่ภายนอกอีกด้วย สนใจเสาไฟสนาม คลิกที่นี่

สุดท้ายนี้ การนำไฟแสงสว่างมาใช้งานเพื่อการตกแต่งภายนอกบ้านและในสวนนั้น นอกจากต้องคำนึงถึงรูปแบบโคมและแสงที่ส่องสว่างออกมาแล้ว ต้องดูวัสดุและการออกแบบโคมไฟด้วย โคมไฟภายนอกที่ดีควรออกแบบให้กันน้ำ หรือให้น้ำไหลผ่านออกได้ ไม่มีการกักขัง ผลิตจากวัสดุที่ทนทานต่อสภาพอากาศ และไม่เป็นสนิม เช่น เหล็กหรืออะลูมิเนียมทำผิวสีแบบพาวเดอร์โค้ท ซึ่งมีความแกร่งทนทานกว่าการพ่นสีทั่วไป


ขณะที่สเตนเลสสตีลมีพื้นผิวเงางามแต่อาจมีราคาสูง หลีกเลี่ยงโคมที่ผลิตจากพลาสติกเพราะมีอายุการใช้งานสั้น เมื่อโดนรังสียูวี ความร้อนจากสภาพอากาศและจากหลอดไฟ ส่วนชิ้นส่วนโคมหรือเลนส์ควรเลือกใช้ที่ผลิตจากแก้วโซดาไลม์ ที่ทนทานทุกสภาพอากาศ และอย่าลืมว่าโคมไฟภายนอกหลายจุดของบ้านคุณอาจเปิดใช้งานตลอดคืน ดังนั้นควรเลือกโคมที่มีหลอดไฟแอลอีดี หรือสามารถนำหลอดไฟแอลอีดี ซึ่งกินไฟน้อยมาใส่ใช้งานได้ หวังว่าข้อมูลที่ Design Village นำเสนอครั้งนี้จะช่วยให้คุณดื่มด่ำความสวยงามยามค่ำคืนไม่มากก็น้อย