เรื่องไม่ลับของกระเบื้องกันลื่น
Written by: Tanet Chantaket
03 July 2020
Views: 1,680
กระเบื้องเป็นวัสดุยอดนิยม ด้วยความหลากหลายของสไตล์และสีสัน ความทนทานแข็งแรง และดูแลรักษาง่าย อีกทั้งมีหลายประเภทซึ่งรองรับการใช้งานได้แทบทุกรูปแบบและทุกพื้นที่ ดังนั้นการเลือกกระเบื้องที่เหมาะสมกับการใช้งานจึงเป็นเรื่องสำคัญ ปัจจุบันค่า R เป็นหนึ่งในข้อกำหนดในการเลือกซื้อกระเบื้องของผู้ที่คำนึงถึงความปลอดภัยในบ้าน แต่หลายคนอาจสงสัยว่า ค่า R นี้คืออะไร ค่า R คือค่ากันความลื่นของผิวกระเบื้องที่มีความเรียบหรือหยาบ แต่ไม่ได้หมายถึงพื้นผิวกระเบื้องมีลวดลายนูน ค่า R ระบุคุณสมบัติกันความลื่นของพื้นผิวกระเบื้อง ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานของ German Standard (DIN 51130) ที่ต้องผ่านการทดสอบตามขั้นตอนที่กำหนด ถือเป็นค่ามาตรฐานที่นิยมใช้และเป็นที่ยอมรับในยุโรป สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
การทดสอบค่า R มาตรฐาน German Standard นั้น เป็นการทดสอบโดยการเดินสวมรองเท้าพื้นดอกยางบนพื้นลาดเอียงที่เคลือบด้วยน้ำมันเครื่อง โดยค่อยๆ ปรับองศาความชันขึ้นจนผู้เดินนั้นลื่นไถล กระเบื้องที่ผ่านการทดสอบว่าช่วยป้องกันการลื่นไถลในแต่ระดับความชัน จะถูกกำหนดให้มีค่า R ที่แบ่งออกเป็น 5 ระดับ โดยมีค่าอยู่ระหว่าง 9-13 จึงจะถือว่าเป็น “กระเบื้องกันลื่น” ดังนั้นเราจะไม่เห็นการระบุค่า R ที่น้อยหรือมากกว่านี้ พื้นผิวของกระเบื้องกันลื่นนี้มีความเรียบหรือหยาบต่างกัน โดยจะเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ใด และสภาพแวดล้อมอย่างไรนั้น มาดูกันเลยครับ
(ซ้ายและขวา) กระเบื้องเกลซพอร์ซเลนลายหิน Gelato รุ่น Victorian 04 MT ผิวด้าน ค่า R9 ขนาด 20 X 20 ซม. สนใจ คลิกที่นี่
กระเบื้อง R9
ค่า R9 นี้บ่งบอกว่ากระเบื้องผิวเรียบแบบด้าน เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ในบ้านทั่วไปที่ต้องการความปลอดภัย เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร หรือห้องนอน รวมถึงห้องครัวที่พื้นไม่เปียกน้ำ พื้นผิวที่เรียบยังทำความสะอาดได้ง่ายเหมือนกระเบื้องทั่วไป หากระเบื้องปูพื้นค่า R9 คลิกที่นี่
(ขวา) กระเบื้องเกลซพอร์ซเลนลายหิน Capucino รุ่น Stone System Taupe ผิวด้าน ค่า R10 ขนาด 60 X 60 ซม. สนใจ คลิกที่นี่
(ขวา) กระเบื้องเกลซพอร์ซเลนลายไม้ ICC รุ่น LIGNA BONE ผิวด้าน ค่า R10 ขนาด 20 X 90 ซม. สนใจ คลิกที่นี่
กระเบื้อง R10
กระเบื้องชนิดนี้มีพื้นที่เรียบแบบด้าน ซึ่งพื้นผิวจะหยาบมากกว่า R9 ช่วยสร้างแรงเสียดทานที่ดีขึ้น ดังนั้นจึงเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ภายนอก อย่าง พื้นลานจอดรถ หรือเฉลียงและระเบียง รวมถึงพื้นที่เปียกน้ำภายในบ้าน เช่น ห้องน้ำ และห้องครัวเป็นต้น พื้นผิวที่หยาบไม่มากนี้ สามารถเดินด้วยเท้าเปล่าได้โดยไม่รู้สึกระเคืองฝ่าเท้า รวมถึงยังทำความสะอาดได้ง่าย จึงเป็นกระเบื้องค่า R ที่ได้รับความนิยม และมีตัวเลือกหลากหลาย หากระเบื้องปูพื้นค่า R10 คลิกที่นี่
(ขวา) กระเบื้องเกลซพอร์ซเลนลายหิน COTTO รุ่น กราเวโล กราไฟต์ ค่า R11 ขนาด 12X12 ซม. สนใจ คลิกที่นี่
กระเบื้อง R11
กระเบื้องค่า R11 นี้แม้จะมีพื้นผิวเรียบ แต่อาจมีความหยาบกว่าสองชนิดแรก จึงไม่ได้รับความนิยมใช้ในพื้นที่ซึ่งเดินเท้าเปล่า พื้นผิวที่หยาบอาจต้องใส่ใจในความสะอาดบ่อยครั้ง แต่พื้นผิวหยาบนั้นอาจเหมาะกับการใช้ในพื้นที่ซึ่งเปียกน้ำขณะใช้งานบ่อยครั้ง อย่าง ลานจอดรถ หรือเหมาะใช้กับทางเดินภายนอกที่มีความลาดชัน หากระเบื้องปูพื้นค่า R11 คลิกที่นี่
(ซ้ายและขวา) กระเบื้องเกลซพอร์ซเลนลายหิน Argenta รุ่น Arcadia Grey ผิวด้าน ค่า R9 ขนาด 45 X 90 ซม. สนใจ คลิกที่นี่
กระเบื้อง R12
กระเบื้องประเภทนี้มีพื้นผิวหยาบ อาจไม่เหมาะกับการใช้งานในบ้านอยู่อาศัย มักนิยมใช้ปูพื้นที่เฉลียงพักผ่อนภายนอก หรือปูพื้นรอบบริเวณสระว่ายน้ำในบ้าน นิยมใช้ในพื้นที่สาธารณะที่มักเปียก เช่น พื้นของห้องครัวในร้านอาหาร หรือห้องล็อคเกอร์ในฟิตเนส เป็นต้น หากระเบื้องปูพื้นค่า R12 คลิกที่นี่
กระเบื้อง R13
ค่า R13 นี้มีพื้นมีหยาบมากที่สุด มีทั้งกระเบื้องเคลือบและไม่เคลือบ ไม่ค่อยนิยมใช้ในบ้านอยู่อาศัย โดยส่วนใหญ่มักนิยมใช้ปูพื้นที่รอบสระว่ายน้ำสาธารณะ หรือทางเท้านอกอาคาร
ท้ายสุดนี้ สำหรับคนไทยที่ไม่ใส่รองเท้าเดินภายในบ้าน ก็ยังควรระมัดระวังหากพื้นเปียกชื้น เพราะกระเบื้องกันลื่นนั้นผ่านการทดสอบด้วยการสวมรองเท้าเดินบนกระเบื้องนั่นเอง อย่างในกรณีที่นำกระเบื้องค่า R10 ซึ่งมีพื้นผิวที่เดินได้สบายมาใช้ ก็อาจเกิดการลื่นไถลได้ในกรณีที่พื้นเปียกชื้น ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่คำนึงถึงความปลอดภัย ควรเลือกกระเบื้องค่า R ชนิดมีลวดลายร่องบนพื้นผิว หรือมีพื้นผิวไม่เรียบ จะช่วยลดโอกาสลื่นไถลได้ดีขึ้น แต่เมื่อเดินเท้าเปล่าอาจสัมผัสถึงร่องหรือพื้นผิวที่นูนของลวดลายบ้าง หรือหากในบ้านมีผู้ใช้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ หรือเด็กเล็ก อาจติดตั้งสติกเกอร์กันลื่นเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง เช่น บริเวณพื้นที่อาบน้ำ เป็นต้น