กลเม็ดการตกแต่งห้องนอนเด็ก

แม้วัย 3-4 ขวบ คือช่วงอายุที่เหมาะสมแก่การแยกห้องนอนให้แก่เด็ก แต่… ทั้งนี้ก็ต้องดูความพร้อมของเขาด้วย เพราะเด็กแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน พ่อ-แม่จึงต้องคอยเฝ้าสังเกตพฤติกรรม มิใช่นำไปเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่นๆ แล้วเฮโลตามกันไป ฉะนั้นก่อนถึงเวลา อันดับแรกจึงต้องมีการเตรียมการไว้แต่เนิ่นๆ สักนิด ส่วนทริคสำคัญที่ห้องนอนเด็กพึงมีนั้นคืออะไรบ้าง ตามมาส่องข้อมูล เพื่อเสิร์ฟความสุขให้แก่เจ้าตัวน้อยของคุณกันได้เลย

เน้นการเติมเต็มจินตนาการ


Photo by Photographee.eu on Shutterstock


Photo by Photographee.eu on Shutterstock

เพราะเด็กวัย 3-4 ขวบ เป็นช่วงแห่งการช่างจดช่างจำ มักมีเพื่อนในจิตนาการ (จุ๊ๆ ไม่ใช่แม่ซื้อนะ แต่เป็นโลกแห่งการสมมติที่เด็กสร้างขึ้น) ดังนั้นถ้าคุณจับจุดได้ว่าลูกชอบอะไร การตกแต่งมุมห้องนอนให้สอดรับกับสิ่งที่เขาต้องการ หรือต่อยอดจินตนาการเกี่ยวกับความฝันในสิ่งที่เจ้าตัวสนใจ ย่อมช่วยส่งเสริมทักษะพัฒนาการทางด้านสมองและอารมณ์ให้แก่เด็กได้ อาทิเช่น การตกแต่งห้องนอนสไตล์เจ้าหญิง นักบินอวกาศ ซูเปอร์ฮีโร่ หรือแนวผจญภัย ฯลฯ แถมกลเม็ดนี้ยังช่วยกระตุ้นให้เด็กอยากมีห้องนอนเป็นของตัวเอง ชอบและขจัดความกังวลได้อย่างสนิทใจมากยิ่งขึ้น

พื้นที่กิจกรรม สร้างความคุ้นเคย


Photo by Photographee.eu on Shutterstock

ห้องนอนเด็ก ไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่แค่พื้นที่สำหรับนอนเท่านั้น แต่คุณสามารถจัดมุมนั่งเล่น นั่งเขียนหนังสือ วาดรูป มุมของเล่นต่างๆ เพื่อเป็นดีเทลในการช่วยดึงดูดความสนใจ แถมได้เสริมสร้างพัฒนาการทางกล้ามเนื้อมัดเล็กและสมองให้แก่เขาได้ในคราวเดียว  และถ้าอยากให้ลูกเกิดความคุ้นเคยกับห้องนอนใหม่ของเขาเร็วได้ขึ้น ไม่ยาก ช่วงเวลากลางวัน คุณก็ควรหมั่นให้น้องเข้ามานั่งเล่นนั่งทำกิจกรรมในห้องตัวเองบ่อยๆ เท่านั้นเอง

สวยคู่ความปลอดภัย


Photo by Juliya Shangarey on Shutterstock

นอกจากความสวยงามน่ารักสดใสของห้องนอนเด็กแล้ว เรื่องความปลอดภัยยิ่งต้องไม่ควรมองข้าม เฟอร์นิเจอร์ที่เลือกหามาให้น้อง ไม่ว่าจะเป็นเตียง (พร้อมที่กันตก) ตู้ โต๊ะ เก้าอี้ หรือชั้นวางของ ควรเลือกที่มีสัดส่วนพอดีเหมาะสมกับวัย มีดีไซน์โค้งมน ไม่มีเหลี่ยมคม  เพื่อช่วยลดทอนอุบัติเหตุร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นกับตัวเด็ก รวมถึงคัดสรรเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่มีสารระเหย หรือสารเคมีเจือปน เช่น สารเคลือบสี หรือสารเคลือบเงา ที่สำคัญควรเลือกหาจุกปิดช่องเสียบปลั๊กไฟมาใส่ด้วย เพราะรูเนี่ยเป็นอะไรที่เด็กสนใจใคร่รู้จริงๆ

ขจัดปัจจัยที่มีผลเชิงลบต่อความรู้สึก


Photo by Photographee.eu on Shutterstock

การทำห้องนอนให้กับเด็ก สิ่งที่มีผลทำให้เขาไม่อยากแยกห้องนอน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นมาจากความ ‘กลัว’ และสิ่งที่มีผลต่อความรู้สึกด้านลบนั่นก็คือ  

ความโล่ง ไม่ควรทำห้องเด็กที่มีความกว้างจนเกินไป หรือเกินความจำเป็น เพราะห้องที่โล่งกว้างอาจทำให้เด็กรู้สึกถึงความโหวงเหวงนำพาไปสู่ความกลัวได้

ความมืด เป็นปัจจัยหนึ่งที่ควรให้ความสนใจอย่างมาก ควรมีการติดตั้งไฟตามจุดต่างๆ ให้เกิดความโปร่งสว่างไร้มุมอับ ที่สำคัญมีหน้าต่างที่พอเพียง เพื่อให้แสงธรรมชาติเข้ามาช่วยเติมเต็มในห้องไม่ให้เกิดความทึบตัน ช่วงแรกๆ อย่าเพิ่งปล่อยให้เขาอยู่ลำพังคนเดียว! คุณอาจต้องรอให้ลูกหลับ หาวิธีกล่อมพูดคุย เล่านิทาน เมื่อได้ผลแล้วค่อยปลีกตัวออกมา รวมถึงควรติดตั้งกล้องวงจรปิดที่มีสัญญาณแจ้งเตือนไปยังห้องของคุณไว้ด้วย เผื่อไว้กรณีที่เจ้าตัวน้อยตกใจตื่นขึ้นกลางดึกนั่นเอง