COURTYARD AT V&A MUSEUM

หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ศิลปะและการออกแบบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศอังกฤษ อย่าง Victoria and Albert Museum หรือ V&A Museum  สร้างความฮือฮาในแวดวงการออกแบบอีกครั้ง ด้วยการปรับปรุงพื้นที่โซนประตูฝั่งตะวันตก ซึ่งอยู่ติดกับ Exhibition Road  ถนนสายศิลปะที่มีพิพิธภัณฑ์สำคัญๆ ของกรุงลอนดอนรวมอยู่ถึง 3 แห่ง การออกแบบครั้งนี้จึงถือเป็นการต่อเติมพื้นที่พิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 100 ปี ออกแบบโดยบริษัท AL_A ที่ฝากผลงานระดับโลกมาแล้วมากมาย รวมถึงห้างสรรพสินค้าเซนทรัลเอ็มบาสซี ย่านเพลินจิตในกรุงเทพฯ ด้วย โดยทีมงานใช้เวลาศึกษาความเป็นไปได้นานกว่า 6 ปี ถึงแนวทางการออกแบบทั้งในแง่ของโครงสร้าง รวมไปถึงวัตถุประสงค์การออกแบบ เพื่อสร้างการเข้าถึงและมุมมองใหม่ๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยใช้งานออกแบบเป็นตัวเชื่อมสเปซให้เกิดความร่วมสมัย เหมาะกับผู้เข้าชมทุกเพศทุกวัยได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ที่มีความสุขขึ้นกว่าเดิม


ช่องแสงขนาดใหญ่รูปทรงทันสมัย ทำหน้าที่ดึงแสงธรรมชาติให้เข้ามายังพื้นที่ภายในอาคารได้อย่างทั่วถึง

พื้นที่โซนหลักที่ได้รับการแปลงโฉมนี้ประกอบด้วยโซน Sackler Couryard ลานกลางแจ้งขนาดพื้นที่ 1,200 ตารางเมตร มีหน้าตาทันสมัยด้วยเส้นสายโฉบเฉี่ยว โอบล้อมด้วยอาคารดั้งเดิมสมัยวิกตอเรียน ซึ่งนับเป็นการสร้างความแตกต่างระหว่างยุคสมัยได้อย่างชาญฉลาด นอกจากนี้บนพื้นยังกรุกระเบื้องพอร์ซเลนทำมือจำนวน 11,000 ชิ้น ฝีมือการออกแบบจาก Royal Tichelaar Makkum บริษัทผู้ผลิตเซรามิกสัญชาติเนเธอแลนด์อายุกว่าศตวรรษ ที่ตั้งใจสร้างความน่าสนใจให้ผิวกระเบื้อง ด้วยการเคลือบผิวให้เกิดเป็นเอฟเฟ็กต์สีเหลือบขาวที่หลากหลาย โดยได้แรงบันดาลใจมาจากประวัติศาสตร์อันยาวนานของเซรามิกที่จัดแสดงอยู่ใน V&A Museum นั่นเอง ส่วนแพตเทิร์นการปูกระเบื้องผู้ออกแบบได้ปูตามแนวเดียวกับโครงทรัส ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักในการรับน้ำหนักของ Sackler Courtyard เอาไว้ เพื่อให้เส้นสายต่อเนื่องจากภายนอกเข้าสู่ภายใน


ความเปลี่ยนแปลงของวิวท้องฟ้าที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา ช่วยสร้างบรรยากาศและอารมณ์ความรู้สึกที่มีผลต่อมุมมองขณะเดินเยี่ยมชมผลงานศิลปะที่จัดแสดงอยู่ภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ / ทางเข้าบริเวณ Sackler Courtyard ที่เชื่อมต่อกับ Exhibition Road ของกรุงลอนดอน

ลึกลงไป 18 เมตร ใต้พื้นที่ Sackler Courtyard คือ Sainsbury Gallery พื้นที่จัดแสดงงานศิลปะและการออกแบบร่วมสมัยใต้ดินขนาด 1,100 ตารางเมตร ด้วยความลึกระดับนี้แถมยังอยู่ใจกลางกรุงลอนดอน ทำให้ต้องเจาะเสาเข็มลึกลงไปถึง 50 เมตร เพื่อความแข็งแรง และด้วยพื้นที่อันกว้างขวางจึงทำให้แกลเลอรี่แห่งนี้ ติดอันดับหนึ่งในห้องจัดแสดงนิทรรศการชั่วคราวที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษตั้งแต่เปิดตัวมา มีความพิเศษอยู่ตรงที่ไม่มีเสามาคอยรับน้ำหนักโครงสร้าง พื้นที่จึงโปร่งโล่งไม่เป็นอุปสรรคต่อการจัดแสดงงานศิลปะแต่อย่างใด ส่วนเพดานด้านบนออกแบบให้เป็นช่องแสงเชื่อมต่อกับ Sackler Courtyard เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาถึงพื้นที่ใช้งานได้อย่างทั่วถึง สร้างความรู้สึกเชื่อมต่อระหว่างท้องฟ้ากับพื้นที่จัดแสดงงานใต้ดินได้อย่างดี นอกจากบริเวณ Sackler Courtyard และ Sainsbury Gallery แล้ว ทางพิพิธพัณฑ์ยังมีส่วนจัดแสดงอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไฮไลท์อย่างบันทึกของลีโอนาร์โด ดาวินชี จิตรกรชื่อก้องโลก ที่มีรายละเอียดเป็นภาษาอิตาลีที่เขียนกลับหลัง ต้องใช้กระจกสะท้อนเท่านั้น จึงจะสามารถอ่านได้ หรือจะเป็นส่วนจัดแสดงผลงานศิลปะอื่นๆ และสิ่งของกว่า 4.5 ล้านชิ้น ในแกลเลอรี่ 145 แห่ง ทั่วพิพิธภัณฑ์ที่จะพาคุณย้อนเวลาไปชมความยิ่งใหญ่ที่เคยมีอยู่จริงบนพื้นที่การออกแบบแบบร่วมสมัยได้อย่างลงตัวแห่งนี้



เมื่อความต่างของสไตล์ในงานสถาปัตยกรรมมาผสมกัน จึงเกิดเป็นความร่วมสมัยที่เข้าถึงง่ายได้อย่างไม่น่าเชื่อ / มุมมองจาก Sainsbury Gallery มองย้อนขึ้นไปบนช่องแสงจะเห็นลายโครงทรัส ที่ทำหน้าที่รับน้ำหนัก Sackler Courtyard เอาไว้ได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นแพตเทิร์นเดียวกันกับกระเบื้องพอร์ซเลนบนลานด้านบนนั่นเอง