NAIIPA ART COMPLEX

“อยากเป็นตัวอย่างให้คนอื่นเห็นว่า การทำโครงการอะไรก็แล้วแต่ มันไม่จำเป็นต้องตัดต้นไม้ก่อน เพราะที่ดินในกรุงเทพฯ มีต้นไม้ใหญ่เหลือน้อยเต็มทีแล้ว”

คุณเก้ - ศาณ์ปัฏ รักษ์ขิตวัน Co-Founder โครงการ Naiipa Art Complex ชายหนุ่มผู้มีสายตามุ่งมั่นที่จะไม่ยอมตัดต้นไม้ใหญ่ในที่ดินเลยสักต้นเดียว บอกกับเราว่า “แนวความคิดเรื่องการรักษาต้นไม้เดิมทั้งหมดไว้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร เพราะมีตัวอย่างงานสถาปัตยกรรมต่างประเทศพิสูจน์ผลลัพธ์ให้เห็นเป็นตัวอย่างกันมาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่ได้แปลว่ามันจะเป็นเรื่องง่าย เพราะผังอาคารและระบบการก่อสร้างจะต้องหลบหลีก เปลี่ยนแปลงรูปร่างอย่างนอบน้อมต่อการมีอยู่ของกลุ่มต้นไม้เดิมด้วย”


พื้นที่อเนกประสงค์กลางแจ้งที่ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า

แม้แนวคิดจะไม่ยาก แต่ที่ยากยิ่งกว่าคือ เราจะเจอเจ้าของโครงการที่กล้าทำแบบนี้อยู่กี่คน และรวมถึงทีมงานออกแบบ ทีมก่อสร้างที่จะต้องเข้าใจจุดประสงค์ตรงกัน เพื่อร่วมกันสร้างให้โครงการเสร็จสมบูรณ์ได้แบบนี้ คุณเก้เป็นกราฟิกดีไซเนอร์ ทำงานออกแบบกราฟิกและงาน CI รวมถึงมีบริษัทเล็ก ๆ ของตัวเอง เมื่อต้องการจะมีพื้นที่ออฟฟิศเพื่อให้การทำงานสะดวกมากขึ้น จึงพูดคุยชักชวนพี่สาวที่ทำงานด้านการเต้นและการแสดง และคุณน้าที่ทำงานด้านดนตรี สร้างที่ทำงานขึ้นในพื้นที่ดินเดียวกัน ซึ่งเป็นแปลงที่ดินเก่าที่คุณทวดพายเรือมาซื้อไว้ตั้งแต่สมัยที่สุขุมวิทยังเป็นลำคลอง แล้วตกทอดมาถึงรุ่นตายายที่ชอบปลูกต้นไม้เป็นชีวิตจิตใจ หน่อต้นกล้าที่ลงปลูกด้วยมือคนรุ่นก่อนก็เติบโตขึ้นคอยให้ร่มเงาและประโยชน์ต่อถึงลูกหลานในวันนี้ วันที่เมืองกรุงฯ มีต้นไม้ใหญ่เหลือน้อยเต็มที


แผ่นกระจกสะท้อนลวงตาให้อาคารหายไปในหมู่แมกไม้

“ผมรู้สึกว่าการทำงานให้ได้ผลงานที่ดีที่น่าพอใจได้ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถของเราอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมด้วย ด้วยความที่ทำงานด้านศิลปะ เลยรู้ดีว่าการมีพื้นที่ที่ดี มีผลต่อการทำงานมากแค่ไหน” ก่อนหน้านี้ คุณเก้ก็มีวิธีการทำงานแบบคนทั่วไป คือนั่งหน้าคอมฯ และคิดงานในมุมมองเดียว แต่เมื่อได้ทบทวนดู ส่วนใหญ่ในเวลาที่ไอเดียดี ๆ ออกมา จะมาตอนที่ไม่ได้นั่งทำงาน มันมักจะมาตอนนั่งดื่มกาแฟ ตอนมองออกไปนอกหน้าต่าง ตอนพักผ่อน หรือแม้แต่ตอนเข้าห้องน้ำ ฉะนั้น พื้นที่ทำงานของ Naiipa Art Complex จึงจะช่วยเสริมบรรยากาศการทำงานให้มีประสิทธิภาพ และดึงความคิดสร้างสรรค์ในตัวของคนคนนั้นออกมาได้มากที่สุดนั่นเอง


อาคารและต้นไม้อยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว

นี่คือที่มาของแนวคิดในการออกแบบ ที่จะเก็บขุมทรัพย์ราคาแพงซึ่งมีผลต่อจิตใจ นั่นก็คือต้นไม้ใหญ่ที่ตกทอดมาไว้ทั้งหมด แม้จะมีต้นทุนเรื่องค่าก่อสร้างและการดูแลรักษาที่ยากขึ้น แต่ก็โชคดีที่ได้ “ครูต้อ - ธราดล ทันด่วน” ครูต้นไม้ที่คนรักต้นไม้รู้จักกันดี มาเป็นวิศวกรดูแลเรื่องโครงสร้างกับต้นไม้ คอยให้ความรู้และคำปรึกษาว่าทำยังไงต้นไม้ถึงจะอยู่ได้ ต้องตัดกิ่ง ตัดรากยังไงให้ต้นไม้ยังมีชีวิตอยู่ เจาะเสาตรงไหนหรือต้องระวังการเทปูนยังไงไม่ให้โดนราก ความใส่ใจอย่างจริงจังทำให้ทั้งโครงการเทฐานรากให้สูงขึ้นมาจากพื้นดิน 80 เซนติเมตร เพื่อไม่ให้ทับรากไม้ ซึ่งหน้าที่การออกแบบโครงการในป่าตกเป็นของทีมออกแบบ Stu/D/O Architects ที่สำรวจหาพื้นที่ว่างสร้างอาคารได้โดยไม่รบกวนต้นไม้ ทำโครงสร้างอาคารแบบคานคอนกรีตและทางเดินแผ่นไม้แทรกซึมพื้นที่สถาปัตยกรรมในช่องว่างระหว่างต้นไม้ที่เหลืออยู่ ใช้แผ่นกระจกสะท้อน (Reflective Glass) มาลวงตาให้ภาพกิ่งก้านใบไม้สีเขียวฉายทับลงผนังอาคาร ช่วยขยายขอบเขตมุมมองพื้นที่สีเขียวออกไปกว้างขวางมากขึ้น รวมทั้งการใช้ผนังกระจกซ้อน 2 ชั้นพร้อมกับกระจกแบบฝ้า (Translucent Glass) ที่จะลดความร้อนบางส่วนและบดบังมุมมองที่ไม่น่าดูออกไป สร้างความเป็นส่วนตัวให้กับคนที่มาใช้งานหรือเช่าออฟฟิศของโครงการ


การออกแบบภายในอาคารกลมกลืนไปกับธรรมชาติ


ทางเดินเชื่อมระหว่างอาคารที่ลดเลี้ยว เล่นระดับไปตามจังหวะของต้นไม้

และตอนนี้ Naiipa Art Complex ก็กลายเป็นสเปซทางสถาปัตยกรรมที่มีคนพูดถึง และเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าคนรักธรรมชาติและงานศิลปะที่ต้องการหาพื้นที่ทำงานกลางป่าสีเขียว และได้รับการตอบรับอย่างดีจากธุรกิจต่าง ๆ เช่น ไล-บรา-รี่ ร้านกาแฟที่ต้องใช้สภาพแวดล้อมที่ดีมาสร้างบรรยากาศที่น่านั่งอีกด้วย

Naiipa Art Complex
ซอยสุขุมวิท 46 ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าพระโขนง 100 เมตร
โทรศัพท์: 06-2553-5345
FB: naiipa.art