LIVING WITH THE LIGHTING INNOVATION

เมื่อสมาชิกในครอบครัวมีเพิ่มขึ้น พื้นที่ในบ้านหลังเดิมก็ไม่สามารถตอบสนองการใช้งานได้เพียงพอ ครอบครัวตั้งสง่าจึงตัดสินใจรื้อบ้านหลังเดิมออกแล้วสร้างอาคารใหม่ขนาด 6 ชั้นขึ้นมาแทน โดยแบ่งพื้นที่แต่ละชั้นแยกไว้สำหรับแต่ละครอบครัวย่อย โดยคุณภูมิ - ภูมิใจ ตั้งสง่า เจ้าของธุรกิจร้านอาหาร “DJPoomMenu” ตั้งอยู่บริเวณชั้น 5 ของอาคารด้วยพื้นที่ขนาดใช้สอย 250 ตารางเมตร


มาดเท่ ๆ ของคุณภูมิ เจ้าของบ้านผู้รักเทคโนโลยี

“ผมรู้ตัวเลยว่าถ้าแต่งบ้านเองไม่รอดแน่ พี่เจเจ (ดีเจรุ่นพี่) ก็เลยช่วยแนะนำมัณฑนากรให้ ผมถึงได้รู้จักคุณเอ - วัฒนา โกวัฒนาภรณ์ จาก Abalance Interior Design ซึ่งพอได้เห็นผลงานของเขาก็ชอบเลยนะ โจทย์แรกที่ผมบอกคุณเอไปคือ ผมมีรองเท้าที่สะสมไว้เยอะมาก และมันต้องเป็นส่วนหนึ่งของบ้านที่ดูสวยด้วย ตามมาด้วยเรื่อง Gadget ต่าง ๆ ที่ผมอยากให้มีอยู่ในทุกมุมของบ้าน เน้นระบบแสงไฟและเสียงที่ปรับเปลี่ยนได้ตามอารมณ์ กำหนดบรรยากาศที่แตกต่างของบ้านได้ และต้องควบคุมง่าย ๆ ด้วยไอแพดหรือสมาร์ทโฟน เช่น เวลาอยากปาร์ตี้สนุกสนานก็เปิดโหมดโชว์แสงสีเสียงจัดเต็มที่ เวลาอยากดูหนังก็เลือกกดม่านปิดเพื่อลดระดับแสงแต่เสียงยังเต็มที่อยู่ หรือเวลาต้องการผ่อนคลายสงบ ๆ ก็เลือกกดเพลงเบา ๆ แอร์เย็น ๆ ทั้งหมดนี้ต้องเลือกและควบคุมสั่งการได้ง่าย ไม่ต้องมาวุ่นวายกดหลายปุ่ม”


ด้านหลังของบานตู้ยังออกแบบให้เป็นที่เก็บสะสมรองเท้าของคุณภูมิได้อย่างลงตัว

นอกจากเรื่องการผสมวัสดุตกแต่งที่เน้นทั้งความทันสมัยและผิวสัมผัสที่มันวาว อย่างทองแดง เหล็ก หิน และไม้แล้ว บ้านของเขายังเต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่ซ่อนนวัตกรรมเพื่ออำนวยความสะดวกและบันเทิงได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่นซึ่งเป็นหัวใจหลักของบ้าน โดดเด่นด้วยฝ้าเพดานไวนิลขนาดใหญ่ซ่อนแสงไฟเปลี่ยนสีได้ พร้อมชุดโซฟาตั้งอยู่กลางห้องเพื่อเปิดให้พื้นที่โดยรอบโปร่งและลื่นไหลต่อเนื่องกันได้ดี มุมรับประทานอาหารหรูหราด้วยโต๊ะหินอ่อนและเก้าอี้ดีไซน์ กับเคาน์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่พร้อมชั้นวางเครื่องดื่มภายในห้องครัวกว้างขวางที่ตอบรับความเป็นพ่อครัวและนักดื่มได้อย่างชัดเจน


ภายในห้องนั่งเล่นที่จัดวางโซฟาไว้กลางห้องทำให้มีพื้นที่ทางเดินด้านข้างกั้นระหว่างห้องครัว โดยทั้งหมดอยู่ภายใต้แสงไฟที่ซ่อนระบบปรับเปลี่ยนบรรยากาศได้ตามอารมณ์

“ตอนแรกบ้านดูแมน ๆ และออกเพลย์บอยมากกว่านี้อีก แต่ผมขอให้เขาปรับอารมณ์เพิ่มความอบอุ่นนุ่มนวลเข้าไปบ้าง โดยไม่ทิ้งฟังก์ชันสนุก ๆ จากเทคโนโลยี แม้แต่ในห้องนอนที่เลือกระบบม่านซึ่งสามารถปิดแสงได้มืดสนิท เพราะผมชอบนอนในห้องที่มืดจริง ๆ เพื่อสามารถพักผ่อนได้เต็มที่ ส่วนห้องน้ำในห้องนอนก็ใช้ผนังกระจกโปร่งแสงที่ติดตั้งระบบไฟฟ้าให้ปรับเป็นม่านกระจกฝ้าได้เมื่อต้องการความเป็นส่วนตัว เวลาไม่ใช้งานก็เปิดโหมดกระจกใสช่วยทำให้ห้องดูกว้างสบายตาขึ้น ผมชอบพวกเทคโนโลยีทั้งหมดนี้นะ มันทำให้ผมอยู่บ้านได้สนุกขึ้นมาก ๆ เลย”


(ซ้าย) งานดีไซน์ผนังที่ใช้ทองแดงสลับกับขนม้ายังคงต่อเนื่องมาสู่ผนังหัวเตียงภายในห้องนอน ส่วนห้องน้ำภายในห้องนอนนั้นกั้นแยกไว้ด้วยประตูกระจกบานเลื่อนที่ติดตั้งม่านระบบไฟฟ้าให้สามารถปรับเป็นม่านกระจกฝ้าได้เมื่อต้องการความเป็นส่วนตัว และเปลี่ยนเป็นม่านกระจกใสได้เมื่อต้องการมุมมองที่โปร่งตา
(ขวา) ผนังบริเวณห้องครัวเน้นความหรูหราวิบวับด้วยวัสดุทองแดงที่ตีเป็นกรอบสี่เหลี่ยมสลับกับขนม้า วัสดุที่ใช้สื่อถึงความเท่ของคาวบอยหนุ่ม

เรียกว่าสมกับเป็นบ้านของคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้เน้นให้ดูสวยงามอย่างเดียว แต่เมื่อผสมเข้ากับเทคโนโลยีแฝงนวัตกรรมเข้าไปด้วยแล้ว ก็ยิ่งเพิ่มความสะดวกสบายได้สมกับเป็นบ้านในยุคดิจิทัลนี้จริง ๆ